เสี่ยงโชคคาสิโน (Casino) ที่มาเก๊า

เสี่ยงโชคคาสิโน (Casino) ที่มาเก๊า
เมื่อทางการล้มเลิกการผูกขาดธุรกิจ คาสิโน ของมหาเศรษฐีเจ้าพ่อ คาสิโน สแตนลีย์ โฮ ในปี 2545 รายได้จากการพนันของมาเก๊าก็พุ่งพรวดเกือบ 3 เท่าในระหว่างปี 2546-2550 วินน์ มาเก๊า รีสอร์ต มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ของสตีฟ วินน์ เปิดบริการในปลายปี 2549 อลังการงานสร้างทะเลสาบฝีมือมนุษย์ กับการแสดงดนตรีวารี ขณะที่โรงแรมเวนีเชียน มูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ คุยโตว่ามีห้องชุดทั้งหมด 3,000 ห้อง จึงเป็นโรงแรมที่มี คาสิโน (Casino) ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ต่อมา เศรษฐกิจตกต่ำได้ส่งผลกระทบกับมณฑลกว่างตง เพื่อนบ้านของมาเก๊า กับแหล่งใหญ่ของนักพนัน โรงงานพากันปิดกิจการ คนตกงานเกลื่อน ขณะที่ฮ่องกง แหล่งป้อนนักท่องเที่ยวรายใหญ่อีกแห่ง ก็ได้รับผลกระทบด้วย
เมื่อมาประจวบกับความเข้มงวดในการออกวีซ่า พัฒนาการเหล่านี้ก็ถึงขั้นทำให้บรรดาเจ้าพ่อ คาสิโน (Casino) ทั้งหลายเกือบหมดตัว อย่าง เชลดอน อาเดลสัน มหาเศรษฐีพันล้าน เจ้าของลาสเวกัส แซนด์ส กับครั้งหนึ่งติดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ในสหรัฐฯ
ทว่าในห้วงเวลาวิกฤตอย่างนี้ ขวัญของนักเสี่ยงโชคไม่เคยผวา แต่ยังเพียรพยายามหาช่องทางสิงสู่อยู่ในบ่อนมาเก๊าให้ได้นานที่สุด แม้การออกกฎใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 ก็ตาม แต่หลายคนมองว่า ไม่มีทางสกัดกั้นผีพนันที่เข้ามาบ่อน คาสิโน (Casino) ได้ เพราะนักพนันอาจพยายามเล็ดลอดเข้ามา โดยถือบัตรผ่านทางธุรกิจ หรือบินไปประเทศอื่นก่อน แล้วจึงค่อยบินกลับมายังมาเก๊า
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐกำลังทดลองออกการพนันรูปแบบใหม่ในเมืองอู่ฮั่น,มณฑลหูเป่ย เพื่อลดความกระหายอยากไปแต่มาเก๊าของนักเสี่ยงโชค เกมเสี่ยงโชคที่ว่านี้ ผู้ทายผลการแข่งม้าถูกจะได้รับสลากกินแบ่ง ซึ่งมีโอกาสถึงร้อยละ 60 ที่จะได้รับรางวัลมูลค่าตั้งแต่ 45 เซนต์ ไปจนถึงเกือบ 600 ดอลลาร์