เพลิงโหมไหม้คลังสินค้าปอยเปต

เพลิงโหมไหม้คลังสินค้าปอยเปต


วันนี้ (15 ก.พ.) พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการแจ้งประสานจาก จนท.ตม.ปอยเปต และ จนท.กรุงปอยเปต อ.โอวจโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามด่านพรมแดนอรัยประเทศ จ.สระแก้ว ว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้คลังเก็บสินค้าและบ้านเรือนราษฎรชาวเขมรที่ตลาดซาเกี๊ยะ กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย จึงขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำ จากประเทศไทยไปช่วยสกัดเพลิงด้วย เนื่องจากรถดับเพลิงของกัมพูชามีน้อยและอาคารบ้านเรือนประชาชนชาวเขมรเป็นอาคารไม้เก่าๆทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

ซึ่งหลังจากได้รับการประสานจึงแจ้งไปยังเทศบาลเมืองอรัญประเทศส่งรถดับเพลิง 3 คัน , หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 และ อบต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ฯส่งรถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำร่วมสนับสนุนอีก 2 คัน โดยเพลิงได้ลุกไหม้อาคาร 2 ชั้นซึ่งเป็นโกดังเก็บเสื้อผ้ามือสอง ซึ่งบรรจุในกระสอบหลายร้อยกระสอบ ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนท.ต้องระดมฉีดน้ำเลี้ยงโดยรอบก่อนจะฉีดเข้าจุดต้นเพลิง โดยต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชม.จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดไว้ได้ แต่ก็ทำให้เสื้อผ้ามือสองซึ่งบรรจุกระสอบที่ชาวเขมรเรียกเป็นกิ๊บกว่า 100 กิ๊บ ถูกเพลิงไหม้จนหมด แต่ไม่ลามไปถึงอาคารข้างเคียงได้เนื่องจากรถดับเพลิงจากไทยได้ฉีดน้ำเลี้ยงไว้โดยรอบก่อนจะเข้าดับเพลิงจุดต้นเพลิง เสียหายเพียงโกดังเก็บเสื้อผ้ามือสองเท่านั้น

จนท.กรุงปอยเปต เปิดเผยว่า โกดังเก็บเสื้อผ้ามือสองที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นของพ่อค้าชาวเขมรซึ่งขณะเกิดเพลิงไหม้ยังค้าขายอยู่ในตลาดโรงเกลือ ฝั่งไทย ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ หน้าตลาดซาเกี๊ยะ กลางกรุงปอยเปต ซึ่งเจ้าของทำเป็นโกดังเก็บเสื้อผ้ามือสองมีกว่า 100กระสอบหรือกว่า 100 กิ๊บ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ดีที่เพลิงไหม้ไม่ลามไปติดโรงเรียนประถมซึ่งอยู่ห่างจากโกดังไม่ถึง 20 เมตร และขอบคุณประเทศไทยที่ส่งรถดับเพลิงไปช่วยจนควบคุมไม่ให้ไฟลามไปติดบ้านเรือนชาวเขมรโดยรอบ.